Nikon เปิดตัวหล้องดิจิตอลรุ่นใหม่ เอาใจมือสมัครเล่นที่กำลังคิดจะเริ่มต้นถ่ายภาพด้วย Z50 กล้อง Mirrorless แบบ crop-sensor ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ความละเอียด 20.9 ล้านพิกเซล CMOS sensor น้ำหนักเบาเพียง 397 กรัม มาพร้อมหน้าจอ LCD แบบพับได้ขนาด 3.2 นิ้ว สำหรับสายเซลฟี่ แต่ พับลงด้านล่าง ซึ่งไม่แน่ในว่าเป็นการตั้งใจออกแบบมาหรือว่ายังไง เพราะถ้าหากใส่ขาตั้งเข้าไป จอก็จะถูกบัง แล้วก็…ยังไง.
ถ้าจะเข้าสู่สังเวียน Mirrorless ก็ต้องเตรียมอาวุธให้พร้อม Nikon Z50
อัดแน่นด้วยฟังชั่นเจ๋งๆมากมาย เช่น 209-area Phase detection, eye-detection autofocus ชัตเตอร์สปีด 30 – 1/4,000 วินาที 1/200 x-sync ถ่ายวีดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด UHD 4K/30p และ 1080/120p ถ่ายต่อเนื่องได้สูงสุด 11 เฟลมต่อวินาที ISO 100 – 51200 ยืดได้ถึง 204800 แบตเตอรี่ให้มา 850 mAh ยืดอายุการใช้งานได้นานขึ้น ถ่ายต่อเนื่องผ่าน VF ได้ถึง 320 ช็อต และถ่ายผ่านจอ LCD ได้ 280 ช็อต
นอกจากนี้ Nikon Z50 สนนราคาค่าตัวอยู่ที่ $859 เหรียญฯ(ประมาณ 25,700 บาท)คุณสามารถจับคู่กับเลนส์ Z-mount กระกูล DX สองรุ่นใหม่ที่เปิดตัวมาพร้อมกัน, ตัวกล้อง + เลนส์ Nikkor Z DX 16-50mm f/3.5-6.3 VR ในราคาเพียง $999.95 เหรียญฯ(ประมาณ 30,000 บาท) หรือจะเป็นแพ็คเกจ ตัวกล้อง + Nikkor Z DX 16-50mm f/3.5-6.3 VR + Nikkor Z DX 50-250mm f4.5-6.3 VR ในราคา $1,350 เหรียญฯ(ประมาณ 40,500 บาท) และพร้อมวางจำหน่าวยเดือนพฤษจิกายนนี้
สื่อต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯโดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ มีความพร้อมในการออกใบอนุญาติให้บริษัทสัญชาติอเมริกาทำธุระกิจกับ Huawei ได้อีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ และอาจมีเงือนไขในการกำหนดประเภทสินค้าที่สามารถขายและซื้อได้ นั่นหมายความว่าสินค้าบางประเภทอาจถูกสั่งห้ามซื้อขาย.
การเริ่มดำเนินการออกใบอนุญาติในครั้งนี้ เป็นการตัดสินในโดยตรงของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ใบอนุญาตทำธุระกิจกับหัวเว่ยในครั้งนี้จะเรียกว่าเป็นการ ยอมงอแต่ไม่ยอมหักก็ได้ เพราะใจหนึ่งก็ไม่อยากยกเลิกคำสั่งแบน และอีกฝั่งก็โดนกดดันจากหลายๆบริษัท การตัดสินใจครั้งนี้จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้
อันที่จริงทีมงานทรัมป์ได้มีการเปรยเรื่องใบอนุญาตนี้มาตั้งแต่เดือนมิถุนายนแล้ว เดือนสิงหา มีการยื่นคำขอออกใบอนุญาติจากบริษัทต่างๆกว่า 130 คำขอ แต่เพิ่งจะได้ไฟเขียว Apple ตัดสินใจลบแอ้พ HKmap.live ออกจาก App Store โดยแอ้พดังกล่าวถูกใช้อย่างแพร่หลายในฮ่องกง ชาวฮ่องกงใช้แอ้พนี้เื่อมาร์คตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจและแจ้งเตือนจุดที่มีการปิดถนน ระหว่างการประท้วงในฮ่องกงที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
Apple ได้ออกแถลงการโดยระบุว่า “เราสร้าง App Store ขึ้นมาเพื่อให้เป็นที่ที่มีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือสำหรับผู้ใช้ในการค้นหาแอ้พต่างๆ และเราเห็นว่าแอ้พ HKmap.live ถูกใช้ไปในทางที่เป็นอันตรายต่อชาวฮ่องกงและขัดต่อการบังคับใช้กฏหมาย. ผู้ใช้หลายคนติดต่อมาทางเรา และมีความกังวลเกี่ยวกับแอ้พดังกล่าว และเราได้เริ่มทำการสืบสวนทันที. มีการใช้แอ้พนี้ในการบอกตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีของฮ่องกงได้มีการยืนยันว่า แอ้พนี้ถูกใช้เพื่อการชี้เป้าและซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่, คุกคามความปลอดภัยต่อสาธารณชน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ที่ไม่มีการบังคับใช้กฏหมายต้องตกเป็นเหยื่อภัยคุกคาม. แอ้พนี้ละเมิดขอบเขตของเราและกฏหมายท้องถิ่น และเราได้ทำการลบแอ้พดังกล่าวออกจาก App Store เรียบร้อยแล้ว”.
Google อาจเซอร์ไพรส์เปิดตัว Pixel Watch พร้อม Pixel 4, 15 ตุลาคมนี้
ข่าวลือหนาหูจากหลายสื่อในต่างประเทศ ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ Google จะเซอร์ไพรส์แฟนๆด้วยการเปิดตัวนาฬิกา smartwatch รุ่นแรกในชื่อ Pixel Watch ออกมาคู่กับ Google Pixel 4 และ 4 XL ในงาน Made by Google ที่จะเปิดขึ้นในวันที่ 15 ตุลาคมที่จะถึงนี้.
ย้อนไปก่อนหน้า เมื่อปี 2018 ข่าวว่า Google เคยพูดถึงเรื่องการเปิดตัว smartwatch แต่ก็ต้องล้มเลิกไป ซึ่งดูเหมือนว่า ณ ตอนนั้นทาง Google จะยังไม่พอใจกับระบบปฏิบัติการ Wear OS สักเท่าไหร่, แต่เส้นทางของ Pixel Watch ก็กลับมาสดใสอีกครั้งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา Google ยอมควักกระเป๋าซื้อสินทรัพย์ทางปัญญาที่ชื่อว่า “innovative” จากบริษัทผู้ผลิตนาฬิกานาม Fossil ในราคากว่า $40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ. โดยทางบริษัท Fossil ได้ออกมาบอกว่า สิ่งที่ Google สั่งซื้อไปนั้น เป็นอะไรที่ใหม่มากในวงการสมัยนี้ อยู่เหนือไปอีกขั้น และความสามารถที่ไม่ไม่มีใครเทียบได้.
แปดเดือนต่อมา มีการค้นพบว่า สิ่งที่ Google ซื้อไปนั้น เป็นเทคโนโลยี hybrid smartwatches พูกง่ายๆคือลูกผสมนั่นเอง, ตัวเรือนที่เป็นฟังชั่นนาฬิกาอนาล็อคทั่วไป และแฟงไปด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย, แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าสิ่งที่ Google ซื้อมานั้นจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ Pixel Watch เลย, แต่ Google ก็ยังเดินหน้าต่อ กระทั่งเดือนเมาษยน มีข้อมูลการจดสิทธิบัตรของ Google ว่าด้วยเรื่องข้อต่อสายนาฬิกา ซึ่งเป็นการคอนเฟิร์มว่า Google เตรียมตัวจะทำอะไรบางอย่างกับ Pixel Watch.
ล่าสุดก็มีข่าลือออกมาว่า อันที่จริงแล้ว ที่ Google ยอมควักเงินซื้อลิขสิทธิ์มากจาก Fossil นั้น ไม่ได้ต้องการเทคโนโลยีจริงๆหรอก แต่ที่ต้องการคือวิศวกร 20 คน ที่พ่วงมาด้วยต่างหาก และเหมือนจะเป็นสัญญานว่าเราอาจจะได้เป็น Pixel Watch เปิดตัว 15 ตุลาคมนี้ ก็เป็นไปได้
แน่นอนว่าหาก Google ต้องการที่จะดันให้ Pixel 4 ขึ้นมาแข็งแกร่งเพื่อต่อกรกับ Apple ที่มี Apple Watch และ Samsung ที่มี Galaxy Watch, Pixel Watch นี่แหละจะเป็นอาวุธชิ้นสำคัญที่เสริมความแข็งแกร่งให้ Google ไม่มีเวลาไหนจะเหมาะไปกว่านี้อีกแล้ว.
แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น